02 ก.พ. 64 (11:35 น.)แสดงความคิดเห็น Add @Sanook.com
หลังจากได้รับชมรีวิว Samsung Galaxy S21 Ultra ที่จัดหนักจัดเต็มเรื่องของกล้องกันไปแล้ว เพื่อไม่ให้คนที่มองดู 2 รุ่นเล็กยอย่าง Samsung Galaxy S21 และ S21+ น้อยใจกันไป วันนี้ทีม Sanook Hitech ก็จะมีอีก 1 รุ่นให้ได้รับชมกันอย่าง Galaxy S21 รุ่นเล็กฟีเจอร์ครบไม่แพ้รุ่นพี่ มารับชมกันว่าจะมีอะไรที่แตกต่างจากรุ่นอื่นแค่ไหน
แกะกล่อง Samsung Galaxy S21
ภายในกล่องของ Samsung Galaxy S21 จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ดังนี้
- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S21
- คู่มือตัวเครื่อง
- สายชาร์จไฟ แบบ USB-C to USB-C
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy S21
เริ่มจากหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว แบบ Infinity Display ให้พื้นที่กว้างขวาง และ Panel เป็นแบบ Dynamic AMOLED X2 ที่คมชัด แต่ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ Full HD+ และยังสามารถปรับค่า Refresh Rate ระหว่าง 48 – 120Hz
ส่วนบนจะมีลำโพงสำหรับสนทนาและลำโพงตัวเครื่องซ่อนอยู่ภายในแต่แสดงผลที่ขอบด้านบนสุด มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
ส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มเลือกเมนูของเครื่องที่มาให้แบบจัดหนักจัดเต็มสามารถเปลี่ยนได้ทั้งปุ่มและ การปัดโดยสามารถเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) >Display (หน้าจอ) > Navigation Bar (แถบการนำทาง) และมี 2 แบบได้แก่
เป็นแบบปุ่มกดปกติที่เปลี่ยนรูปแบบได้ ค่าเริ่มต้นคือ Recent Apps, กลางคือ Home และ ขวาสุดคือ Back หรือ ย้อนกลับ และมีอีกแบบบให้เลือกตามภาพครับ
- ปุ่มกดที่เป็นแบบปัด จะมีการเปลี่ยนแปลงคือ
- ปัดตรงกลางขึ้น 1 ครั้งเท่ากับกลับหน้า Home
- ปัดตรงกลางขึ้นค้างไว้ จะกลับไปหน้า Recent Apps
- ปัดข้างซ้ายหรือขวาของหน้าจอ จะเป็นการย้อนกลับ
หากไม่สะดวกจะใช้ 3 Tab แบบเดิมก็ได้ (ซ้าย = Recent Apps, กลาง = Home, ขวา = Back) และยังสามารถเลือกความไวได้ด้วย
ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกสุดของ Samsung Galaxy S21 แต่ยังมาพร้อมกับขอบที่เป็นโลหะ โดยเฉพาะสี Phantom Pink และ Phantom Purple ยังคงได้สีทองที่สวยงามมาก นั่นคือสีทองแบบเงาวับ ฝั่งซ้ายจะไม่มีปุ่มอะไร เน้นโชว์ความงามของเครื่อง
ฝั่งซ้าย
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง ถ้ดลงมาจะเป็น Side Key ที่สามารถทำงานงานหลากหลาย พร้อมกับสามารถเปลี่ยนฟีเจอร์ปรับเปลี่ยนเริ่มจากการเข้าไปที่ การตั้งค่า Side Key สามารถเข้าที่ ตั้งค่า(Setting) > คุณสมบัติขั้นสูง (Advance Setting) > ปุ่มข้าง หรือ Side Key สามารถเปลี่ยฟีเจอร์ได้ตั้งแต่
ฝั่งขาวมือ
(บน) ปุ่มปรับระดับเสียง (ล่าง) ปุ่ม Side Key
- เรียก Bixby
- สั่งเปิดกล้อง
- สั่งเปิด / ปิดเครื่อง ก็ได้
ส่วนบนมาพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 2 ตัวสามารถจับเรื่องเสียงต่างๆ รอบทิศมากขึ้น
ส่วนล่างมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด, USB-C ไมโครโฟนตัวหลัก พร้อมกับลำโพงตัวหลัก
พลิกมาด้านหลัง จุดนี้มีความแตกต่างจากรุ่นพี่ที่เล่ามาก่อนหน้านี้ ได้แก่วัสดุด้านหลังเป็น พลาสติก และมีส่วนของกล้องเป็นโลหะ มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน + LED Flash รองรับ Wireless Charge, NFC ในตัว
ภาพรวมการสัมผัสเครื่อง Galaxy S21
สิ่งแรกที่ชอบสุดของมือถือรุ่นนี้คือ ขนาดมันเล็ก ถือแล้วคล่องตัว เหมาะกับการถ่ายวิดีโอในหลายรูปแบบ และสามารถติด Gimbal โดยไม่ต้องห่วงว่ามันจะรับน้ำหนักไม่ไหว แต่ว่า สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจว่า ไม่ควรเลยกับมือถือรุ่นนี้คือ การสัมผัสด้านหลังรู้สึกว่ามันจะแยกออกทันที ถ้าคุณเคยจับรุ่นที่สูงกว่าอย่าง Galaxy S21+ และ Galaxy S21 Ultra อย่างไรก็ตาม ข้อดีของด้านหลังพลาสติกคือ มันทนและระบายความร้อนได้รวดเร็วกว่า
และเฟรมเครื่องรวมถึงส่วนกล้องเป็นโลหะอยู่ ก็ยังทำให้คุณจะสัมผัสกับคุณภาพอยู่ ทั้งนี้ถ้าเป็นขอบสีทองจะต้องเป็นสีม่วง หรือ สีชมพูเท่านั้น เพราะถ้าเป็นสี Phantom Gray จะได้ขอบที่ออกเป็นสีดำครับ ส่วน Phantom White ไม่ได้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และสเปกของเครื่อง
รายละเอียดของ Samsung Galaxy S21 (สเปกที่จำหน่ายในประเทศไทย)
- หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้วความละเอียดระดับ FHD+ พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 7 x 73.7 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก 172 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 2100
- กราฟิก : Mali G78 MP14
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128/256GB
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, 5G / 4G
- ลำโพง Stereo ทั้งบนและล่างปรับจูนโดย AKG
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x)
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
- แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh
- รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1
- สี Phantom Violet, Phantom Pink, Phantom Gray, Phontom White
การทดสอบประสิทธิภาพ
คะแนนจาก AnTuTu = 556,157 คะแนน
คะแนนจาก Geekbench 5 = 888 คะแนน (Single Core) | 3313 คะแนน (Multi Core)
เมื่อเห็นคะแนนแล้วต้องยอมรับว่าคะแนนจะแตกต่างจาก Galaxy S21 Ultra ที่ได้ทำการทดสอบไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย เพราะความแตกต่างมีเพียง RAM ที่น้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็น Galaxy S21 Ultra ที่ได้ RAM 8GB จะไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่
ทีนี้มาดูในเรื่องของการเล่นเกมดีกว่า Samsung Galaxy S21 ก็ยังคงมี Game Booster ที่เรียกศักยภาพของเครื่องที่เต็มที่กว่ารุ่นเดิม แต่ว่าเมื่อทดลองเล่นเกมจริง พบว่ายังมีบางเกมที่กระตุกเวลาเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แนะนำว่า ควรปิดโปรแกรมทั้งหมดก่อนที่จะเล่นเกมจะได้ศักยภาพที่ดีกว่า
การเชื่อมต่อ / การทดสอบระบบนำทาง
มือถือรุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ในแบบ SA / NSA, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1 รองรับการนำทางทั้ง GPS, A-GPS แต่ว่า น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ทำงานกับ Digital อย่าง Ultra Wide Band รวมถึง Wi-Fi 6E ที่เป็นมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุด ไม่สามารถใช้งานได้ในรุ่นเล็กนี้
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
การแสดงผลของ Samsung Galaxy S21 กับหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ที่ได้ Panel แบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียดที่ 2400x1080 พิกเซล ยังรู้สึกว่ามันก็ยังให้การแสดงผลที่ดีเหมือนเดิม และการสัมผัสหน้าจอถือว่าลงตัวดี สีสันคมชัด แม้ว่าความละเอียดจะไม่ได้มากเท่ารุ่นพี่อย่าง S21 Ultra แค่เวลาออกแดดจัดไม่สามารถสู้แสงความสว่างกับ S21 Ultra ได้ แต่ก็ยังถือว่าทำได้ดีระดับมือถืองบประมาณนี้
ส่วนลำโพง รุ่นนี้ก็ให้ Stereo ทั้งบนและล่าง มาพร้อมกับระบบ Dolby ATMOS ที่ปรับได้หลากหลาย รวมถึงมีฟีเจอร์ ปรับ Equlizer เหมือนกับรุ่นบนทุกประการ คุณภาพเสียงถือว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับขนาดของเครื่อง
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบปฏิบัติการ
Samsung Galaxy S21 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1 ใหม่ล่าสุดและใหม่กว่า Galaxy ที่ผ่านมาทั้งหมด มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง ไม่มี Samsung Daily เปลี่ยนเป็น Google News, Samsung Message เปลี่ยนเป็น Google Message เท่านั้น
ลูกเล่นของ Samsung Galaxy S21 ที่ได้นั้นประกอบด้วย
- รองรับการเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา และมีฟีเจอร์ SmartThing Find สามารถตามหาอุปกรณ์ได้ง่าย แม้ว่าจะลืมนาฬิกาในกระเป๋าก็ตาม ทำงานร่วมกับ Galaxy SmartTags
- เครื่องมือที่มาให้ครบทั้ง Bixby Routine ปรับเปลี่ยน Profile ตัวเครื่องอัตโนมัติ, Bixby Voice, การใช้งาน 2 หน้าจอ, เครื่องอัดหน้าจอ, ระบบอัดเสียง, เครื่องคิดเลข, Bixby Routine Android Auto, Dex, Wireless Dex ยังมีมาให้ครบ
ระบบความปลอดภัยเป็นแบบสแกนนิ้ว Ultra Sonic ขยายใหญ่ขึ้นทำให้สแกนได้อย่างรวดเร็วมากพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วยครับ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
Samsung Galaxy S21 และ S21+ จะได้กล้องทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล F/1.8 Dual Pixel
- กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา
- กล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล พร้อมกับ PDAF สามารถจำลองการซูมแบบคมชัด มากถึง 3 เท่า
- LED Flash
- กล้องหน้า Dual Pixel ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
จุดเด่นของกล้องแบบนี้คือ มันถ่ายภาพระยะใกล้ได้ดีอยู่เพราะเซนเซอร์หลักไม่ได้มีความละเอียดมากทำให้สามารถถ่ายภาพได้ดี นอกจากนี้ยังการเก็บรายละเอียดกลางคืนไม่ได้แพ้จากรุ่นใหญ่มากนัก แต่ถ้าใครคุ้นเคยกับ Galaxy S20 Series จะพบว่ากล้องจะเหมือนเดิม ยกเว้นตัว Ultra Wide จะเป็นเซนเซอร์จาก Sony ที่เหลือเราต้องมาดูกันที่ลูกเล่น
ฟีเจอร์ภายในของกล้อง
ในส่วนของเมนูกล้องของ Samsung Galaxy S21 เรียกว่าไม่ได้แตกต่างจาก Galaxy S21 Ultra เน้นการควบคุมที่ง่ายมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นมาเต็มไม่ว่าจะเป็น แต่อาจจะถูกลดทอนฟีเจอร์จนเหลือแค่
- Single Take จะเพิ่มฟีเจอร์ Dynamic Slowmotion การเคลื่อนไหวช้าลง,Highlight Video, Scene relighting ที่สามารถปรับแสงอัตโนมัติ และคราวนี้ ถ้าแบบไหนไม่ใช้คุณสามารถ เลือกไม่ให้แสดงผลได้
- Portrait Mode ปรับรูปแบบของสีให้ดูรูปและสามารถให้ภาพละลายหลังลึกได้เหมือนกับใช้กล้องโปร
- Super Resolution Zoom เก็บรายละเอียดให้รองรับในการซูมระยะสูงสุดให้คมชัดจากการทำงานพร้อมกันทั้งหมด
- Zoom Lock ถ้ามีการซูมที่มากกว่า 30x ถ้าไม่มีการขยับจะเครื่องล็อคภาพให้นิ่งอยู่ได้
ตัวอย่างภาพของ Samsung Galaxy S21
Ultra Wide
1x
3x
10x
30x
สภาพแสงปกติ / ภาพกลางวัน
สภาพแสงน้อย / ภาพกลางคืน
ภาพอื่นๆ (ถ่ายอาหาร, บุคคล, ภาพระยะใกล้, ฟิลเตอร์ต่างๆ)
การถ่ายวิดีโอด้วย Samsung Galaxy S21
แม้ว่าสเปกของกล้องจะแตกต่างจากรุ่น S21 Ultra แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนกันคือ การถ่ายวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด 8K 24 FPS และยังมีโหมด Pro Video นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ
- การถ่ายวิดีโอแบบ Super Steady Video รองรับในแบบ 60 FPS
- วิดีโอแบบซูมสามารถใช้ได้ในความละเอียด 4K /60 FPS ได้สูงสุด 12x (ยกเว้น 8K ที่ซูมไม่ได้นะครับ)
- Director View รองรับการถ่ายวิดีโอ โดยมีการใช้มุมกล้องหลายตัว จะพรีวิวแต่ละช็อดว่ามันสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น โดยรองรับทั้งฟีเจอร์ Vlogger View จะถ่ายกล้องหน้าและหลังเวลาเดียวกัน Live Thumbnails สามารถสลับแต่ละช่วงเลนส์ว่าเอาแบบไหนที่ต้องการทำให้การออกแบบถ่ายภาพวิดีโอได้ง่ายมากขึ้น
- สามารถทำงานในแบบ Multi Mic Recording ช่วยให้การถ่ายวิดีโอผ่านไมโครโฟนได้มากกว่า 1 อันในแบบ Bluetooth ทำงานกับ Galaxy Buds Pro ที่มีเสียงไมโครโฟนที่ดีขึ้น
- ปรับปรุง Single Take จะเพิ่มฟีเจอร์ Dynamic Slowmotion การเคลื่อนไหวช้าลง,Highlight Video, Scene relighting ที่สามารถปรับแสงอัตโนมัติ และคราวนี้ ถ้าแบบไหนไม่ใช้คุณสามารถ เลือกไม่ให้แสดงผลได้
- Portrait Video เลือกเปลี่ยนพื้นหลังของวิดีโอได้
การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
อีกสิ่งที่กล้องรุ่นนี้ยังเหมือนเดิมคือ กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล แบบ Dual Pixel ที่เก็บรายละเอียดได้ดีเหมือนกัน มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กล้องหลัง และโดดเด่นในเรื่องการเก็บภาพเวลากลางคืนที่สว่างดีครับ
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
อีกเรื่องที่สำคัญคือ Samsung Galaxy S21 ให้แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh เท่านั้นไม่ได้เยอะเท่ากับรุ่นบนๆ แต่ว่าเมื่อทีมได้ทดลองใช้งานจริง พบว่าต่อให้เล่นบทโหดเล็กน้อย ก็ยังคงอยู่ได้ราวๆ 11 – 12 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องให้เครื่องเลิกเรียนรู้การใช้งานของเราก่อนครับ แต่ถ้าใช้ Run กราฟิกต่อเนื่องด้วย PC Mark กลับทำได้ 8:11 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ได้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว
ส่วนระบบชาร์จไฟ มือถือรุ่นนี้รองรับการชาร์จไฟแบบสายได้แค่ 25W ในแบบสาย Wireless Charge กำลัง 15W และ Reverse Charge ได้ 9W ในตัว Galaxy S21 Ultra ผมได้บอกว่ามันช้าไปหน่อย แต่เมื่อเป็น Galaxy S21 กลับสมตัวและทำได้รวดเร็วมากครับ
ทิ้งท้ายการที่ Samsung รองรับกำลัง 25W กลับมีข้อดี 1 ข้อที่สำคัญมากคือ กำลังจะต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง และกำลังแบบนี้ไม่สร้างความร้อนมากทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานและลดความเสี่ยงต่อแบตเตอรี่ร้อนจนเกิดระเบิดได้ครับ
สรุปหลังจากทดลองทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้ Samsung Galaxy S21 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เป็นรุ่นเริ่มต้น Galaxy S21 ที่ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ครบเครื่อง และมีกล้องที่สมบุรณ์เหมาะกับคนสร้างสรรค์งาน ด้ายภาพและวิดีโอ การทำงานเครื่องอาจจะไม่ได้มีอะไรหวือหวาเหมือนกับรุ่น Ultra เน้นการใช้งานจริง แต่ยังพบว่าเครื่องร้อนเมื่อมีการเปิดกล้องนานๆ เหมือนกับ S21 Ultra และ วัสดุไม่ได้หรูหรามากนัก
ดังนั้นตัวนี้ผมถือว่าเป็นมือถือเรือธงที่มีสเปกพอเพียงกับวัสดุกำลังเหมาะ เน้นน้ำหนักเบาพกง่ายมากกว่า นั่นเอง แต่ถ้าต้องการความอึดของแบตเตอรี่และจอใหญ่กว่านี้ แนะนำว่าเลือก Galaxy S21+ ที่มีความแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่
ส่วนราคาของ Galaxy S21 จะอยู่ที่ 27,900 บาท (RAM 8/128GB) และ 29,900 บาท (RAM 8/256GB) ทั้งคู่น่าสนใจแต่ว่าแนะนำว่า ถ้าเลือกตัวนี้ควรเลือกความจุสูงสุดไปเลยเพราะไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้อีกต่อไป
ปิดท้ายกับรีวิวนี้ Samsung Galaxy S21 มันคือ เรือธงที่ได้ทุกอย่างของ S21 แต่ลดทอนความหรูหรา เพิ่มความพกพาง่ายเข้ามา เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือกล้องดี ไปติด Gimbal เพื่อถ่ายวิดีโอ และถ่ายตัวเองได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดครับ
จุดเด่น
- เครื่องเบา พกง่ายติด Gimbal ไม่ต้องตั้งค่า
- สเปกกล้องไม่แพ้รุ่น S21+
- เครื่องแรงเล่นเกมได้ลื่นไหล
- มีสีสันให้เลือกหลากหลาย
- ลูกเล่นครบไม่แพ้รุ่นบน
- สีสันของเครื่องมีให้เลือกหลากหลายแบบไม่ต้องสั่งในหน้าเว็บ
ข้อสังเกต
- ด้านหลังเป็นพลาสติก ทำให้ดูไม่สมกับมือถือราคา 2 หมื่นกลาง
- เพิ่ม Memory ไม่ได้
- ตัดอุปกรณ์ออกจากกล่องจนหมดเลย
- เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นเล็ก การใช้งานหนัก จะทำให้เกิดความร้อนสูง
- แบตเตอรี่น้อยกว่ารุ่นพี่ในตระกูลเดียวกัน